วางกลยุทธ์ธุรกิจให้แข็งแกร่ง ด้วย Framework จาก Harvard Business Review

วางกลยุทธ์ธุรกิจให้แข็งแกร่ง

หากคุณเป็น Manager, หัวหน้าทีม หรือเจ้าของธุรกิจ ที่ต้องเริ่มวางแผนกลยุทธ์ให้กับองค์กร การมี Framework ที่ดีจะช่วยให้คุณ สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันและเพิ่มผลกำไร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วันนี้ CareerVisa ขอนำเสนอ Framework การวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ จาก Harvard Business Review ที่ช่วยให้คุณเข้าใจโครงสร้างการตั้งราคาสินค้า ควบคุมต้นทุน และสร้างคุณค่าทางธุรกิจได้อย่างง่ายๆ


🔹 Step 1: ทำความเข้าใจองค์ประกอบของ Framework

Framework นี้ช่วยให้คุณเห็น ความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้า พนักงาน และกำไรขององค์กร โดยมีองค์ประกอบหลักดังนี้:

  1. Willingness to Pay (WTP) = ราคาที่ลูกค้ายินดีจ่าย
  2. Willingness to Sell (WTS) = ราคาที่ธุรกิจต้องการขาย
  3. Price = ราคาขายจริง
  4. Compensation = เงินเดือนและค่าตอบแทนพนักงาน
  5. Customer Delight = ความพึงพอใจของลูกค้า
  6. Firm Margin = กำไรของธุรกิจ
  7. Employee Satisfaction = ความพึงพอใจของพนักงาน

ตัวอย่าง:
หากลูกค้าเชื่อว่าการตัดผมที่ร้านของคุณควรมีมูลค่า 100 บาท (WTP = 100) แต่คุณตั้งราคาขายไว้ที่ 50 บาท (WTS = 50) ลูกค้าจะรู้สึกว่าคุ้มค่า และมีแนวโน้มใช้บริการ


🔹 Step 2: สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

สิ่งที่นักกลยุทธ์ต้องทำให้ได้คือ เพิ่ม WTP และลด WTS เพราะยิ่งช่องว่างนี้กว้างขึ้น ธุรกิจก็จะมีกำไรมากขึ้น และสามารถให้ค่าตอบแทนพนักงานที่สูงขึ้นได้

เป้าหมาย:
✅ เพิ่มคุณค่าของสินค้า เพื่อให้ลูกค้ายินดีจ่ายมากขึ้น
✅ ลดต้นทุนการผลิต โดยไม่กระทบคุณภาพ


🔹 Step 3: วิธีเพิ่ม Willingness to Pay (WTP)

การเพิ่ม WTP หมายถึงทำให้ลูกค้ายินดีจ่ายในราคาที่สูงขึ้นโดยไม่รู้สึกว่าแพง ซึ่งสามารถทำได้โดย:

  • พัฒนา Product Quality – เพิ่มคุณภาพสินค้าและบริการให้โดดเด่นกว่าคู่แข่ง
  • สร้างมูลค่าเพิ่ม – เช่น การจัดโปรโมชั่นแบบ Bundle หรือการให้ Exclusive Service
  • สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง – ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ของคุณมีมูลค่าสูง
  • มอบประสบการณ์ที่ดี – เช่น การให้บริการที่ยอดเยี่ยม ทำให้ลูกค้ากลับมาใช้ซ้ำ

🔹 Step 4: วิธีลด Willingness to Sell (WTS)

WTS คือต้นทุนที่ธุรกิจต้องการขาย หากคุณลด WTS ได้ คุณจะสามารถเพิ่มกำไรได้โดยไม่ต้องขึ้นราคา

📉 วิธีลด WTS:

  • ลดต้นทุนการผลิต – เช่น การใช้เทคโนโลยีช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน – ปรับปรุงกระบวนการให้ลดต้นทุนแต่ยังคงคุณภาพ
  • ต่อรองต้นทุนวัตถุดิบ – ใช้กลยุทธ์การจัดซื้อเพื่อให้ได้ต้นทุนที่ถูกลง

⚠️ ข้อควรระวัง: การลดต้นทุนไม่ควรกระทบคุณภาพของสินค้า หรือ ลดค่าตอบแทนพนักงานมากเกินไป เพราะอาจส่งผลต่อ Employee Satisfaction และลด Productivity ลงได้


🔹 Step 5: ปรับจูนคุณค่าที่ลูกค้าได้รับอยู่เสมอ

แม้สินค้าของคุณจะมีราคาสูง แต่ถ้าสร้าง WTP ได้ ลูกค้าก็จะไม่รู้สึกว่าแพง

🔹 Key Insight:
📌 ถ้าลูกค้ารู้สึกว่า “คุ้มค่า” เขาจะยอมจ่ายแพงขึ้น
📌 แต่ถ้าลูกค้าไม่เห็นคุณค่า ต่อให้ราคาถูก ก็ไม่มีใครซื้อ!

🎯 ตัวอย่างคำพูดที่สะท้อนแนวคิดนี้:
“ถ้าถูกใจ ยังไงก็ไม่มีคำว่าแพง”
“แต่ถ้าไม่ถูกใจ ให้ฟรียังไม่เอาเลย”


🔹 สรุป: นำ Framework นี้ไปใช้ได้อย่างไร?

หากคุณเป็นนักวางกลยุทธ์ หรือเจ้าของธุรกิจ ลองนำ Framework นี้ไปปรับใช้กับงานที่ทำอยู่ โดย โฟกัสที่การเพิ่มมูลค่าของสินค้าและบริการ พร้อมควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

🚀 วางกลยุทธ์ที่ดี ธุรกิจเติบโต กำไรเพิ่มขึ้น พนักงานมีความสุข!

🎯 เหมาะสำหรับ

  • Manager, หัวหน้าทีม หรือเจ้าของธุรกิจ ที่ต้องการวางแผนกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพ
  • นักการตลาด นักวางกลยุทธ์ และผู้บริหาร ที่ต้องการเพิ่มกำไรให้ธุรกิจ
  • คนที่สนใจแนวคิดธุรกิจและการบริหารองค์กร

ลองนำ Framework นี้ไปใช้ แล้วดูผลลัพธ์ที่เปลี่ยนไป! 😉


📌 อ้างอิง:
🎥 Harvard Business Review – คลิกดูวิดีโอ

Author

  • รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

สวัสดิการสำคัญ
เช็กลิสต์ 10 สวัสดิการสำคัญ ถามไว้ก่อนไปสมัครงาน
“สวัสดิการสำคัญ” ไม่แพ้เงินเดือน! หลายคนอาจโฟกัสที่ตัวเลขเงินเดือนเป็นหลัก แต่แท้จริงแล้ว สวัสดิการที่ดีสามารถช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มคุณภาพชีวิตได้อย่างมาก...
Theory of Constraints
ปลดล็อกเส้นทางอาชีพ! 5 ขั้นตอนก้าวข้ามข้อจำกัดด้วย Theory of Constraints
คุณรู้สึกติดหล่มกับงานที่ทำอยู่หรือเปล่า? รู้สึกว่างานไม่ก้าวหน้า ถูกจำกัดโอกาส หรือรู้สึกว่าชีวิตการทำงานควรจะไปได้ไกลกว่านี้? ปัญหาของคุณอาจไม่ใช่งาน...
บัตรเครดิต
"บัตรเครดิต" สำหรับวัยทำงาน ตั้งวันจ่ายยังไงให้คุ้มที่สุด?
💳 สรุปสั้นๆ สำหรับคนไม่มีเวลาอ่าน วันจ่าย “บัตรเครดิต” ตั้งวันจ่ายยังไงให้คุ้มที่สุด?ที่ดีที่สุด 👉 “หลังวันสรุปยอดบัตร แต่ก่อนวันครบกำหนดชำระ”...