HR ต้องรู้! กลยุทธ์การใช้ Soft Power สร้างวัฒนธรรมองค์กร

Soft Power สร้างวัฒนธรรมองค์กร

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราเห็นบริษัทชั้นนำอย่าง Google และบริษัทในอเมริกาในอีกหลายแห่งที่ออกแบบสวัสดิการและตกแต่งสถานที่ทำงานราวกับเป็นสถานที่พักผ่อน มีบาร์เครื่องดื่มและโต๊ะปิงปองไว้ทุกมุม พนักงานสามารถใช้บริการนวดฟรี ฟิตเนส และช่วงบ่ายวันศุกร์มีกิจกรรมสนุกสนานเชื่อมสัมพันธ์

สวัสดิการเหล่านี้ได้รับการชื่นชมอย่างมากจากหลายบริษัทในไทย และได้รับเครดิตและรางวัลองค์กรที่น่าทำงานด้วย พนักงานและผู้สมัครก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ทำให้องค์กรนั้นน่าดึงดูดและสร้างแรงบันดาลใจในการทำงานให้กับพนักงาน เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และส่งผลกระทบต่อพนักงานและองค์กรอื่น ๆ ได้อย่างไร

ก่อนจะเข้าใจว่า “Soft Power สร้างวัฒนธรรมองค์กร” ได้อย่างไร? เรามาทำความเข้าใจคำว่า Soft Power กันก่อน

Soft Power คืออะไร ?

Power คือ ความสามารถที่จะสร้างผลกระทบต่อผู้อื่นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่เราต้องการ คืออิทธิผลหรืออำนาจที่สามารถทำได้โดยการบังคับ การจ่ายเงิน หรือการดึงดูดและการโน้มน้าวใจ พลังในการเปลี่ยนแปลงสังคมหรือองค์กรมี 2 รูปแบบ

Hard Power พลังอันแข็งแกร่งที่มีคำสั่ง การบังคับ และบทลงโทษสามารถให้ผลลัพธ์เชิงลบได้

Soft Power คือ ความสามารถในการได้รับผลลัพธ์ที่ต้องการจากการดึงดูดแทนการบังคับหรือการจ่ายเงินซื้อมา ซึ่งเป็นวาทกรรมทางการเมืองในยุโรป จีน และสหรัฐอเมริกา ที่มีรากฐานมาจากการทูตระหว่างประเทศ โดยโจเซฟ ไนย์ บุคคลแรก ๆ ที่เป็นริเริ่มแนวคิดเรื่อง “Soft Power” ในหนังสือที่เขาเขียนขึ้นเมื่อปี 1990 เรื่อง Bound to Lead: The Changing Nature of American Power ที่สามารถเปลี่ยนความคิด ทัศนคติ ค่านิยม และพฤติกรรมทั้งภายในและภายนอกประเทศได้ เกิดจากบุคคลที่มีชื่อเสียง อาหาร วัฒนธรรม ศิลปะ สื่อ และความบันเทิง ในรูปแบบวรรณกรรม ละคร ภาพยนตร์ ดนตรี การแสดง ความสนใจของสื่อ และมีการผลักดันประเด็นทางสังคมอย่างต่อเนื่องเพื่อดึงดูดความสนใจของมวลชนและทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้

Soft Power กับงาน HR

ในมุมมองของ HR Soft Power เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยปรับปรุงการทำงานในหลายด้าน เช่น:

1. การสรรหาบุคลากร (Talent Acquisition)

Soft Power กับงาน HR มีบทบาทสำคัญและอยู่ในงานหลายส่วนมากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นเมื่อเวลาที่บริษัทต้องการสรรหาผู้มีความสามารถระดับสูง การใช้ศาสตร์และศิลป์แบบ “นุ่มนวล” ที่ดึงดูดใจ แทนที่จะบีบบังคับให้คนเก่ง ๆ มาทำงานด้วย นี่ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในการใช้ Soft Power ในองค์กร ในโลกธุรกิจก็คือการสร้างความสัมพันธ์ ความน่าเชื่อถือ และความไว้วางใจ

2. การสร้างแรงบันดาลใจในที่ทำงาน

ด้วยแนวทางนี้ บริษัทหรือหัวหน้างานสามารถมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของผู้สมัครและพนักงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ (เช่น ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติสูงขึ้นที่อยากร่วมงานกับองค์กร พนักงานส่งมอบงานที่มีคุณภาพสูงขึ้น) ดังนั้น หากบริษัทต่างๆ และเหล่าหัวหน้างานสามารถใช้ soft power ได้ดี ก็จะสามารถมีอีกหนึ่งวิธีการที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร ผ่านการดึงดูดและสร้างผลกระทบในระดับตัวบุคคลของพนักงานมากขึ้นได้

.

บทบาทของ HR ดั้งเดิมที่ถูกมองว่าเป็นผู้คุมกฎ บันทึกเวลาทำงาน หักเงิน และลงโทษ บทบาทเหล่านี้ก็กำลังเปลี่ยนไปให้ HR หันมาเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจและศักยภาพเพื่อขับเคลื่อนผลงานให้กับองค์กรมากขึ้น เป็นการสร้างสมดุลระหว่าง Hard Power และ Soft Power เปลี่ยนให้ HR กลายเป็นตำแหน่งงานที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์อย่างมากต่อการกำหนดทิศทางของบริษัทและการดึงดูดคนเก่ง ๆ ให้เข้ามาร่วมงานด้วย

กลยุทธ์ Soft Power ในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร

1. การปรับโครงสร้างองค์กร

เมื่อองค์กรต้องมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ก็ตาม การใช้ Soft Power มีบทบาทสำคัญมากที่จะทำให้พนักงานและผู้บริหารคนสำคัญ หรือแม้กระทั่งบอร์ดบริหารเห็นด้วยและยอมเปลี่ยนแปลงอย่างนุ่มนวล ชักชวนไม่ใช่บังคับ แต่ด้วยการแสดงให้เห็นข้อดีของกลยุทธ์ใหม่ และสร้างให้เกิดการอยากทำตามด้วยตัวเอง เมื่อพนักงานเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำและเชื่อในวิสัยทัศน์ ก็มีแนวโน้มที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงด้วยความเต็มใจ

2. การแก้ไขข้อขัดแย้งให้บรรลุเป้าหมาย

ในโลกธุรกิจและการทำงาน ความขัดแย้งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และในหลายครั้ง การมีความขัดแย้งบ้างถือเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ ดังนั้นการใช้ Soft Power ในการไกล่เกลี่ยและแก้ไขข้อขัดแย้งสามารถส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่กลมเกลียวกันและมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายเดียวกันของบริษัทได้

3. การสร้างความสัมพันธ์ภายในองค์กร

ความผูกพันในองค์กร มีความสัมพันธ์กับหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงานเป็นปัจจัยสำคัญ Soft Power จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดี การทำงานร่วมกันที่สนุกสนาน และมีแรงบันดาลใจได้

.

6 ทักษะที่ HR ต้องมีในการใช้ Soft Power

การจะทำสิ่งที่กล่าวมาเหล่านี้ให้สำเร็จ จำเป็นต้องมีทักษะและศิลปะในการโน้มน้าวใจคน ดังนี้

1. ทักษะการสร้างความสัมพันธ์

ในการสร้าง Soft Power ความสัมพันธ์เป็นพื้นฐานที่สำคัญทั้งภายในและภายนอกองค์กร หากเรามองกรณีของศิลปินเกาหลีเป็นตัวอย่าง จะเห็นว่ากลุ่มนี้มีแฟนคลับที่ต้องหมั่นสร้างความสัมพันธ์ ขยันไลฟ์สดพูดคุยตอบคำถามอย่างใกล้ชิดและจัดกิจกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีชื่อเรียกกันและกันที่ต่างจากคนทั่วไปเพื่อแสดงถึงความเป็นกลุ่มเดียวกัน ในองค์กรก็เช่นกันและไม่ใช่แค่เพียงภายในองค์กรเท่านั้น ยังรวมถึงการสร้างแบรนด์นายจ้างและการสื่อสารไปยังบุคคลภายนอกอีกด้วย

2. ทักษะการเป็นผู้นำโดยทำเป็นตัวอย่าง

Soft Power จำเป็นต้องมีผู้นำ มีผู้เริ่มต้นแนวคิดหรือการกระทำ ซึ่งมักเริ่มต้นจากผู้บริหารด้านบน เป็นตัวอย่างให้กับองค์กรโดยปฏิบัติตามค่านิยมและวัฒนธรรมที่ต้องการปลูกฝัง บริษัทที่มีเจ้าของเพียงคนเดียว หรือมีซีอีโอที่เป็นที่รู้จัก เป็นหนึ่งในตัวอย่างของการสร้าง Soft Power ในรูปแบบนี้ในบริบทขององค์กร ธรรมชาติของมนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคมมักจะเลียนแบบคนรอบข้างเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ดังนั้นการปลูกฝังสภาพแวดล้อมเชิงบวกที่มีประสิทธิผลจะทำให้พนักงานมีความสุขและส่งมอบผลงานได้ดีขึ้น

3. ทักษะการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

ทั้ง HR หัวหน้างาน และผู้บริหารระดับสูงยังต้องมีทักษะการสื่อสารที่ดี ไม่ว่าจะใช้ถ่ายทอดแนวคิดที่ซับซ้อนไปยังพนักงานระดับต่าง ๆ หรือการสื่อสารวิสัยทัศน์ต่อภายนอกองค์กร คุณลักษณะต่างๆ เช่น ความเห็นอกเห็นใจและการเยียวยา ล้วนเป็นคุณลักษณะที่ผู้ที่ต้องการสร้าง Soft Power จำเป็นต้องมี จะไม่มีผิดมีถูก หรือ “ใช่” หรือ “ไม่” แต่กลับกันผู้นำแบบ Soft Power มักจะ “บอกเพิ่มเติม” โดยไม่ทำให้ใครรู้สึกถูกดูถูกเยาะเย้ยหรือเหยียดหยามแบบการใช้ Hard Power ปรับปรุงนโยบายที่เต็มไปด้วยคำสั่งที่เข้มงวดและคำสั่งจากบนลงล่างในที่ทำงานให้พนักงานมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็น

4. ทักษะการใช้ข้อมูลเชิงลึก

Soft Power มีเบื้องหลังด้วยการใช้ข้อเท็จจริงและตัวเลข เพื่อสนับสนุนและวางแผนให้เกิดการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดในการสร้างผลกระทบบ ไม่ว่าจะเป็นความเข้าใจเกี่ยวกับผู้สมัครงานหรือข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพนักงานในการโน้มน้าวดึงดูดใจ หากไม่มีข้อมูลประกอบการโน้มน้าวที่ดีพอ โอกาสที่จะไปผิดทางก็จะเพิ่มมากขึ้น

5. ทักษะการสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ

หลายองค์กรไปไม่ถึงเป้าหมายก็เพราะพนักงานไม่ไว้ใจผู้บริหารที่พูดแต่ไม่ทำจริงหรือทำไม่สม่ำเสมอนั่นเอง ดังนั้น ความสม่ำเสมอ เป็นหัวใจหลักของการสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ ผู้นำหรือ HR ที่มีความสม่ำเสมอในสิ่งที่พูดและทำ ย่อมได้รับความไว้วางใจ ทำให้พนักงานเกิดความมั่นใจและมั่นคง ดังนั้น ไม่ว่าจะสื่อสารนโยบายใหม่ หรือการให้ความสำคัญกับพนักงานก็ย่อมต้องมีความสม่ำเสมอ และ align กันในทุกระบบและนโยบาย เพื่อให้พนักงานไว้วางใจ

6. ทักษะความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม

ความคิดสร้างสรรค์ใหม่ ๆ จะทำให้เกิด Soft Power ที่น่าสนใจและทรงพลัง ซึ่งส่วนมากจะเกิดจากรูปแบบกิจกรรมและการสื่อสาร หลายองค์กรสร้างวัฒนธรรมองค์กรได้ดี เพราะมีเทคนิคการทำสื่อที่น่าสนใจ น่าดึงดูด คนอยากทำตามมากกว่าที่แปะประกาศให้คนอ่านผ่านๆ ไปเท่านั้น แต่มีการคิดแคมเปญร่วมสนุก มีการอุปมาอุปไมยเกี่ยวกับพฤติกรรมต้นแบบที่อยากให้คนทำตาม มีการให้รางวัลกับคนที่ปฏิบัติตามอย่างสร้างสรรค์ เป็นต้น

Soft Power สามารถนำมาใช้อย่างสร้างสรรค์เพื่อความอยู่ดีมีสุขในระยะยาวของพนักงานในองค์กร คำพูดหรือการกระทำของคนดังหรือผู้นำที่มีอิทธิพล สามารถสร้างแรงกระเพื่อมในคุณค่าทางสังคม เศรษฐกิจ การเมือง และมนุษย์ได้ หรือแม้แต่ผลกระทบในวงกว้างก็ยังสามารถทำได้ เช่น การอภิปรายในประเด็นที่มีความอ่อนไหวทางสังคม เช่น เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม หรือกระบวนการทางกฎหมาย Soft Power ยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สร้างงาน ขยายธุรกิจ และดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศด้วยการเสริมสร้างภาพลักษณ์ของประเทศ องค์กรก็เช่นกัน

สรุป: Soft Power สร้างวัฒนธรรมองค์กร ได้อย่างไร?

Soft Power ไม่ใช่แค่เครื่องมือในการโน้มน้าวใจ แต่ยังเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้องค์กรสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับพนักงานและสร้างผลลัพธ์ในระยะยาว ด้วยการนำ Soft Power มาใช้ในงาน HR องค์กรสามารถสร้างวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง ดึงดูดคนเก่ง และเสริมสร้างความผูกพันในทีมได้อย่างยั่งยืน

ดังนั้น หากองค์กรต้องการประสบความสำเร็จในยุคที่คนเป็นหัวใจสำคัญ Soft Power คือเครื่องมือที่ขาดไม่ได้!

อ้างอิง : Khon At Work

Author

  • รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

อยากมีความสุข
อยากมีความสุข ต้องหยุดวิ่งตามความสุข! เปลี่ยนชีวิตด้วยแนวคิด Antifragility
หลายคนเข้าใจว่าความสุขคือการใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย ปราศจากความเจ็บปวดหรือความเครียด แต่ในความเป็นจริง งานวิจัยพบว่า การวิ่งไล่ตามความสุขมากเกินไป อาจทำให้เราห่างไกลจากมันยิ่งขึ้นแนวคิด...
วิธีเพิ่ม Employee Engagement
15 วิธีเพิ่ม Employee Engagement สำหรับ HR โดยไม่เสียเงินสักบาท
ทีม HR ไม่ใช่ทีมที่มีเงินเยอะเท่าไหร่ แต่อยากหา “วิธีเพิ่ม Employee Engagement” ให้ได้ผลCareerVisa มี 15 ไอเดียมาแนะนำ ในแบบทีไม่ต้องใช้เงินเพิ่มสักบาท.♥️ส่งเสริมสมดุลชีวิตและการทำงาน...
10 ทักษะ
10 ทักษะสุดล้ำ พัฒนาไว้เพื่อก้าวสู่อนาคตการทำงานในปี 2025
เทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงของโลกการทำงานในปี 2025 โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีใหม่ ๆ ถูกพัฒนาและนำมาใช้ในทุกสายงาน ทำให้ทักษะที่เคยสำคัญอาจล้าสมัยไปอย่างรวดเร็ว...