บริษัท Minor Group ดีไหม? ปั้นคนคนสไตล์พี่ใหญ่

Minor Group มีพนักงานในเครือกว่า 75,000 คนทั่วโลกที่ทำงานในองค์กรทั้งทางตรงและทางอ้อม นี่คือองค์กรขนาดยักษ์ที่ทำธุรกิจรอบด้านมากๆ ทั้งร้านอาหาร รีเทล โรงแรม สำนักงาน และอีกเพียบการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในองค์กรจึงน่าจะต้องมีมาตรฐานสูงมากและมีความเป็นสากลสูง น่าสนใจไม่น้อยว่า Minor Group มีวิธีปั้นคนในองค์กรยังไงบ้าง?

พัฒนาคนแบบยั่งยืน

 

อันดับแรก Minor นำเรื่องการพัฒนาทรัพยากรบุคคลบรรจุอยู่ใน 5 ค่านิยมขององค์กร (5 Core Values) โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม

 

1.สมาชิกในชุมชนด้อยโอกาส

 

ไม่ใช่แค่บริจาคการกุศลหรือทำ CSR แต่มีการลงทุนในชุมชนทั้งด้านการศึกษาและสาธารณูปโภค การบริจาคการกุศลคิดเป็นเพียง 15% ส่วนที่เหลือ 84% คือการลงทุนกับชุมชน

 

และให้โอกาสเปิดรับการจ้างงาน เมื่อคนเรามีงานทำ ชีวิตมีเปิาหมาย ลดปัญหาอื่นๆ ได้ลงตามมา ไม่แปลกที่พนักงานหลายคนในเครือ Minor เองจะออกมาร่วมเป็นจิตอาสาทำงานโดยไม่มีค่าตอบแทนมากกว่า 10,300 คนเลยทีเดียว

 

2.พนักงาน

 

เปิดรับความหลากหลาย Diversity ทั้งทางเพศสภาพหรือเชื้อชาติ รู้หรือไม่ว่า พนักงานของ Minor เป็นผู้หญิงถึง 51% และมีกว่า 171 เชื้อชาติ 

 

มีการตั้งโปรเจคท์ “More You” ยกระดับคุณภาพชีวิตและศักยภาพของพนักงาน สร้างมาตรฐาน Safety standard ขั้นสูงในการทำงาน สุขอนามัยระดับสูง ไม่ใช่แค่ลูกค้า แต่ออกแบบสภาพแวดล้อมหลังบ้านให้เหมาะกับการทำงานอย่างแฮปปี้

 

บริษัทเติบโตขึ้นทุกปี จึงต้องมีพนักงานมาร่วมงานเสมอ องค์กรจุงได้จัดตั้ง Minor Corporate University (MCU) โครงการฝึกอบรมนักศึกษา 1-2 ปี และเปิดโอกาสให้เข้าสู่การเป็นพนักงาน Minor

 

3.ผู้บริหารระดับสูง

 

เปิดกว้างด้าน career path เพื่อพัฒนาและรักษา talents เก่งๆ โดยในปีที่ผ่านมา มีการโปรโมทปรับพนักงานขึ้นเป็นระดับบริหารถึง 51% เลยทีเดียว เมื่อคนเก่งเหล่านี้อยู่ในตำแหน่งที่สร้าง impact ได้ใหญ่ขึ้น องค์กร ลูกค้า สังคมก็ได้ประโยชน์ตามไป

 

ตำแหน่งนี้คือผู้กำหนดทิศทางใหญ่ขององค์กร จึงมีการบริหารทรัพยากรบุคคลกลุ่มนี้อย่างเป็นระบบ เช่น 

  • จัดตั้งโปรเจคท์ M-Lead แก่ผู้บริหารระดับสูงสุด 25 คนจากทุกกลุ่มธุรกิจทั่วโลก มาเทรนเข้มข้นติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือน 
  • หรือ โปรเจคท์ NGT เทรนเข้มข้น 3 เดือน ที่ถูกออกแบบมาเพื่อปั้นผู้บริหารรุ่นใหม่ในด้านต่างๆ เช่น เทคโนโลยี AI สู่การเป็นความหวังใหม่ขององค์กรในอนาคต

 

เฟรมเวิร์คมืออาชีพ

 

เรียกได้ว่าในทุกขั้นตอนปั้นคนในทีมของ Minor จะอยู่ภายใต้หลักการ “เฟรมเวิร์ค” ในแทบทุกเรื่อง เพราะนี่คือองค์กรใหญ่ระดับสากล ต้องมีแม่แบบตัวกลางที่นำไปทำซ้ำได้ สื่อสารได้ เป็นที่ยอมรับในสากล

 

ตัวอย่างเบื้องต้น เช่น แม้แต่ในขั้นตอนการทำงานของพนักงาน มีเฟรมเวิร์ค “4R” ได้แก่ 

  • Refine – ด้านการเงิน ทำตามกฎหมายของแต่ละประเทศ จ่ายค่าจ้างเป็นธรรม มีแผนส่งเสริมวินัยการเงินของพนักงาน 
  • Risk – สถานที่ทำงานต้องปลอดภัย ลดอุบัติเหตุ มีมาตรฐาน safety standard มีการนำศาสตร์ ergonomics มาใช้
  • Review – ครอบครัวและสังคม องค์กรซัพพอร์ตความเป็นอยู่ของครอบครัวพนักงาน
  • Respond – ร่างกายและจิตใจ เทคแคร์สุขภาพพนักงาน มีการจัดโปรแกรมด้านสุขภาพกายใจและโภชนาการ

 

วัดที่ผลงาน

 

ไม่ต้องเป็นระดับผู้บริหารขั้นสูง…ก็โตในไมเนอร์ได้ คนระดับหัวหน้างานที่นี่มีทัศนคติที่ encourage ให้พนักงานทุกคนฉายแสงในแบบตัวเองโดยไม่ต้องรอให้ใครมาสั่งถึงค่อยทำ ไม่ต้องรอโอกาสแต่สร้างโอกาสขึ้นมาเอง

 

เปรียบเสมือนเป็นการจ้าง 100 แต่เล่น 1,000,000 ทั้งนี้ทั้งนั้น องค์กรก็แฟร์มากพอ ไม่ได้เอาเปรียบ แต่ต้องคอยสังเกตมองเห็น ถ้าเจอคนที่ใช่ก็ต้องมอบ career opportunity ให้อย่างแฟร์ๆ เพราะถ้าไม่ทำ ในระยะยาว คนเก่งแบบนั้นก็คงย้ายไปทำที่อื่น สูญเสียทรัพยากรเก่งๆ ไปอย่างไม่ควรเกิดขึ้น

 

มีวัฒนธรรมที่กำลังเบ่งบานอย่าง Reverse mentoring คือให้ผู้บริหารรุ่นใหม่ x รุ่นใหญ่ มาแลกเปลี่ยนกัน รุ่นใหม่ได้มุมมองประสบการณ์สุดเก๋าจากรุ่นใหญ่ที่หาไม่ได้และตัวเองอาจไม่ต้องเดินตามรอยผิดพลาด ส่วนรุ่นใหญ่ได้ลิ้มรสมุมมองโลกใบใหม่ที่ไม่คุ้นเคย พฤติกรรมคนที่เปลี่ยนไป เทคโนโลยีที่ไม่ชำนาญ เป็นการแลกเปลี่ยนที่ win-win ทั้งคู่

 

วัฒนธรรมองค์กร

โดยเฉพาะคนระดับ “หัวหน้างาน” ที่จะได้การปลูกฝัง people mindset หัวหน้างานที่นี่อาจจะต้องเก่งงานมากกว่าเก่งคนด้วยซ้ำ อย่างเช่น

 

  • รู้วิธีสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกทีมที่ท้อแท้ ผ่านชุดคำถามที่ถูกออกแบบมาเพื่อ inspire และผ่านเทคนิคต่างๆ เช่น visualization 

 

  • เปิดเผยตรงไปตรงมา ถ้าลูกน้องเดินเข้ามาแล้วบอกว่า “อยากเป็นแบบหัวหน้า , อยากทำตำแหน่งหัวหน้า(มาแทนที่)” หัวหน้าต้องอธิบายเส้นทางการเติบโต 1-2-3-4 ได้ว่าเขาควรทำยังไง

 

  • ไม่ใช่แค่ soft skills แต่หัวหน้าต้องดู hard skills ของลูกน้องออก และค้นหาทางสร้าง competitiveness ที่เป็นจุดแข็งสุดๆ เพื่อใช้แข่งขันได้ในระยะยาว

 

  • ต้องใส่ใจรายละเอียด รู้วิธีในการ recognize ลูกน้องที่ทำผลงานได้ดี และมอบพื้นที่ให้เขาได้รับการชื่นชม

 

ในภาพรวม Minor Group มีแนวทางการสร้าง People Development อย่างเป็นระบบและเป็นสากล มีส่วนผสมของศาสตร์และศิลป์อย่างลงตัว เมื่อคนเก่ง องค์กรก็พร้อมโต นี่จึงเป็นกรณีศึกษาชั้นเยี่ยมที่พวกเราน่าจะนำไปประยุกต์ใช้ได้ไม่มากก็น้อย

 

อ้างอิง

Author

  • รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

อยากมีความสุข
อยากมีความสุข ต้องหยุดวิ่งตามความสุข! เปลี่ยนชีวิตด้วยแนวคิด Antifragility
หลายคนเข้าใจว่าความสุขคือการใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบาย ปราศจากความเจ็บปวดหรือความเครียด แต่ในความเป็นจริง งานวิจัยพบว่า การวิ่งไล่ตามความสุขมากเกินไป อาจทำให้เราห่างไกลจากมันยิ่งขึ้นแนวคิด...
วิธีเพิ่ม Employee Engagement
15 วิธีเพิ่ม Employee Engagement สำหรับ HR โดยไม่เสียเงินสักบาท
ทีม HR ไม่ใช่ทีมที่มีเงินเยอะเท่าไหร่ แต่อยากหา “วิธีเพิ่ม Employee Engagement” ให้ได้ผลCareerVisa มี 15 ไอเดียมาแนะนำ ในแบบทีไม่ต้องใช้เงินเพิ่มสักบาท.♥️ส่งเสริมสมดุลชีวิตและการทำงาน...
10 ทักษะ
10 ทักษะสุดล้ำ พัฒนาไว้เพื่อก้าวสู่อนาคตการทำงานในปี 2025
เทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงของโลกการทำงานในปี 2025 โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีใหม่ ๆ ถูกพัฒนาและนำมาใช้ในทุกสายงาน ทำให้ทักษะที่เคยสำคัญอาจล้าสมัยไปอย่างรวดเร็ว...