Mental Rehearsal : ความสำเร็จแรกเกิดขึ้นภายในใจ

Mental Rehearsal
ตื่นเต้นร้อนรนจนใจเต้นไม่หยุด เพราะอาทิตย์หน้านี้มีพรีเซนต์บนเวทีสัมมนาใหญ่ที่มีผู้นำภาคธุรกิจกว่า 100 คนมารวมกัน…จึงหลับตาลง ทำจิตใจให้สงบ แล้วเริ่ม “จินตนาการ” ว่าตัวเองกำลังยืนพูดอยู่บนเวทีนั้น…

นี่คือเทคนิค “Mental Rehearsal” ที่ผู้นำในหลายวงการใช้กัน เทคนิคที่ไม่มีค่าใช้จ่ายนี้จะกลายมาเป็นเคล็ดลับความสำเร็จที่ผู้คนจากหลากหลายอาชีพทั้งนักธุรกิจชั้นนำระดับโลก / นักกีฬา / นักบินอวกาศ / แพทย์ / ศิลปิน ฯลฯ…สามารถเริ่มต้นทำได้!!

Mental Rehearsal เคล็ดลับของเหล่าคนสำเร็จ

Mental Rehearsal คือการ “ซักซ้อมในจิตใจ” (ซ้อมในหัว) เป็นการสร้างประสบการณ์ทางด้านจิตใจ “ฉายภาพ” เหตุการณ์เรื่องราวนั้นๆ ให้เกิดขึ้นในหัว มองเห็นได้ชัดเจนราวกับผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 (เช่น ได้กลิ่น / ได้ยินเสียง / ได้จับมือสัมผัสผู้คน)

นักวิจัยด้านประสาทวิทยาจาก Stanford University เผยว่า Mental Rehearsal จะเข้าไปรื้อระบบสมองตอบโต้อัตโนมัติที่บันทึกอยู่ภายในสมองชั้นใน (Reptilian brain) เพื่อเขียนระบบชุดใหม่ขึ้นมาตามที่เราต้องการอยากให้เป็น ซึ่งจะส่งผลต่อการไหลลื่นเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในโลกความจริง

ในทางปฏิบัติเราจะรู้สึกมี “แรงต้าน” ที่น้อยลง เช่น ทำการซักซ้อมในใจเพื่อสร้างวินัยใหม่อย่างการออกกำลังกายแต่เช้าตรู่

เมื่อเราตื่นเช้าไปวิ่งออกกำลังกาย ก็สามารถลุกจากเตียง เปลี่ยนชุด ใส่รองเท้า แล้วไปวิ่งได้เลยโดยไม่มีขี้เกียจหรือผัดวันประกันพรุ่ง

Mental Rehearsal ดีอย่างไร?

Michael Phelps ให้ความสำคัญที่กระบวนการ…ไม่ใช่ผลลัพธ์ (หรือให้ความสำคัญที่ระหว่างทาง…ไม่ใช่ปลายทาง)

เทคนิคนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการฝึกซ้อมของเขาเลยทีเดียว โดยเขาทำ Mental Rehearsal ถึง 2 ชั่วโมง/วัน จินตนาการถึงสัมผัสของน้ำที่แหวกว่าย / กลิ่นอากาศรอบตัว / เสียงเชียร์ทั่วสนาม / การว่ายที่ทิ้งห่างคู่แข่งไปเรื่อยๆ / การแตะเส้นชัยเป็นคนแรก / จนไปถึงขึ้นจากสระมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงชัยชนะสดๆ ร้อนๆ

สิ่งสำคัญที่สุดเลยคือ การจินตนาการในหัวต้องยิ่ง “ละเอียด” ชัดเจน ยิ่งมีชีวิตชีวาสมจริงมากแค่ไหน ยิ่งช่วยให้การกระทำที่เกิดขึ้นจริงดีขึ้นมากเท่านั้น

ที่เป็นเช่นนี้เพราะ สมองของเราไม่สามารถ “แยกแยะ” จินตนาการที่ชัดเจนมากๆ (vividly imagined) กับ โลกความเป็นจริงได้ ถ้าเราสร้างจินตนาการในหัวที่ทรงพลังสุดๆ ได้ สมอง(และความมุ่งมั่นตั้งใจ) ของเราจะหาทางทำให้มันเกิดขึ้นจนได้

  1. มันทำให้เรารู้สึกได้ ”เตรียมตัว” มาก่อนแล้ว ควบคุมความวิตกกังวล ไม่ตื่นตระหนก ไม่ตื่นเวที (เพราะเหมือนเคยขึ้นมาแล้วในจินตนาการ!) จนไปถึงควบคุมความโกรธหรือความเจ็บปวดได้เลยทีเดียว
  2. มันสร้าง ”กิจวัตร” ประจำใหม่ขึ้นมา (Routine) เวลาปฏิบัติจริง คุณจึงเหมือนเคยผ่านมาแล้ว สมองจึงใช้พลังงานน้อยลงและมีศักยภาพเหลือพอไปคิดเรื่องอื่นแทน
  3. ในด้านทักษะ มีสิ่งที่เรียกว่า “ไม่รู้ตัวว่า ไม่รู้” (Unconsciously unskilled) แต่ Mental Rehearsal จะพัฒนาเราไปสู่ “รู้ตัวว่า รู้” (Consciously skilled) เพราะเราต้องได้ทั้งฝึกภายในจิตและฝึกในโลกจริง

ประยุกต์ใช้ธุรกิจได้หลายเรื่องมากๆ

ลองนึกภาพตัวอย่างต้องขึ้นพูดพรีเซนต์กลางเวทีใหญ่ (เช่น TedTalk)

จินตนาการว่า วันนั้นคุณแต่งตัวแบบไหน / สภาพบนเวทีเป็นอย่างไร / มุมมองวิวจากบนเวทีที่มองไปยังผู้ชม / แท่นพูดหน้าตาเป็นอย่างไร ไมค์อยู่สูงแค่ไหน มีขวดน้ำให้ไหม น้ำยี่ห้ออะไร 

คุณเริ่มต้นกล่าวทักทายผู้ชมอย่างไร / ใช้เทคนิคไหน มุขตลกหรือเริ่มด้วยปัญหา / ปฏิกิริยาสีหน้าที่คาดหวังจากผู้ชมเป็นอย่างไร / ระดับการหายใจตอนนี้ของคุณเป็นอย่างไร / ข้อสงสัยที่ผู้ชมอาจจะยกมือถาม / เสียงปรบมือกึกก้องหลังจบการพรีเซนต์ / ความรู้สึกหลังเดินลงเวทีเป็นอย่างไร

ก่อนถึง “วันเจรจาดีลธุรกิจ” กับลูกค้ารายใหญ่ ลองซ้อมในใจนึกภาพเส้นชัยที่ลูกค้าตอบ “ตกลง” / บรรยากาศในห้องประชุม ใครเข้าร่วมบ้าง แต่ละคนแต่งตัวอย่างไร / วาทศิลป์การโน้มน้าวและข้อมูลเชิงลึกที่คุณจะนำเสนอ / 

Mental Rehearsal ยังใช้ได้ดีในตลาดหุ้น สมมติคุณเป็นนักลงทุนมืออาชีพผู้คว่ำหวอดในวงการ และรู้มาว่ามี “หุ้นพื้นฐานดี” ตัวหนึ่งที่มีศักยภาพโตได้อีกหลายเท่า  

คุณอาจทำ Mental Rehearsal นึกภาพปลายทางวันที่คุณขายทำกำไรมหาศาลจากหุ้นตัวนี้ ผ่านวิกฤติเศรษฐกิจร้อนหนาวต่างๆ 

แม้ในชีวิตจริง ตลาดจะเจอกับความผันผวน ราคาหุ้นจะแกว่งขึ้นลงไปมา แต่คุณจะยังคงมีสติและถือหุ้นตัวนั้นอยู่จนไปถึงช้อนซื้อมาเก็บเพิ่ม จนถึงวันที่ปล่อยขายทำกำไรได้สำเร็จ

ก่อนถึง “วันลาหยุดยาว” พักร้อน ลองฝึกซ้อมในใจว่าอยากให้เป็นวันที่แสนพิเศษอย่างไร / นั่งริมชายหาดกับคนรัก มองทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล คลื่นลมอ่อนๆ พลางจิบแชมเปญ / สถานที่พักโรงแรมอันหรูหรา บริการอันเป็นเลิศ / การปราศจากความเครียดจากการทำงาน

การคิดถึงความสุข ณ อนาคตแบบนี้ยังช่วยให้เรามี “ไฟ” ในการทำงานปัจจุบันตรงหน้า(ความสุขรออยู่)

หรือแม้แต่ในวงการกีฬา Muhammad Ali ทำการซักซ้อมในใจทุกครั้งเพื่อเตรียมตัวก่อนขึ้นชก สัมผัสเสียงเชียร์กึกก้องทั่วสังเวียน พร้อมที่จะรับหมัดรับความเจ็บปวด และพร้อมที่จะปล่อยหมัดน็อคอีกฝ่าย 

วิธีนี้ของเค้ายังเป็นต้นแบบให้แก่นักกีฬาโอลิมปิกรุ่นหลังที่ล่วงรู้เทคนิคนี้อีกด้วย

.

.

เราจะเห็นว่าการซักซ้อมในจิตใจสามารถถูกนำไปประยุกต์ใช้ได้แทบจะ “ทุกเรื่อง” เลยก็ว่าได้ ไม่มีขีดจำกัดแต่อย่างใด

ทุกการกระทำต่อจากนี้ อย่าลืมซ้อมในใจเพราะความสำเร็จแรก…เกิดขึ้นภายในจิตใจ

.

.

ทำ “แบบประเมินอาชีพ” จาก CareerVisa เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ จะได้ทำงานอย่างมีความสุขในทุกๆ วัน >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/

ยังไม่รู้จะหางานอะไรดี? รีบเข้าไปที่ >>> www.careervisaassessment.com

ทำ Resume แบบมืออาชีพได้ง่ายๆ ที่ >>> https://myrightcareer.net/

อ้างอิง

Author

  • รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

Disney
Disney ปั้นองค์กรอย่างไร? สู่โลกจินตนาการที่มีอยู่จริง
Walt Disney มีมูลค่าบริษัทสูงถึง 9.6 ล้านล้านบาทปี 2019 เคาะรายได้รวม 2.1 ล้านล้านบาทมอบความบันเทิงและโลกจินตนาการแก่ผู้คนทั่วโลกทุกวันนี้เวลาเรานึกถึงดิสนีย์เรามักนึกถึง...
การตั้งชื่อ
Assigning Name : คำใหม่ กรอบใหม่ ชีวิตใหม่
Economy , Business Class , First Class ///4P: Product – Price – Place – Promotion ///London bus VS. The Routemaster ///new Coke VS. Coca-Cola classic นี่คือตัวอย่างของพลังการ...
Burnout
สัญญาณ Burnout : ทำไมการ ‘พร้อมเพื่อทุกคน’ อาจทำร้ายคุณ?
ในยุคที่ทุกอย่างเป็น “Always on” หรือพร้อมทำงานตลอดเวลา อาการ Burnout กลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในกลุ่มคนทำงานโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะสำหรับคนที่มักจะ...