ข้อควรระวังสำหรับการเป็นหัวหน้า

เป็นหัวหน้าทีมไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากจะต้องมีความรู้และสามารถบริหารทีมได้ การวางตัวให้ดี และคิดก่อนทำอะไรต่าง ๆ ก็เป็นเรื่องสำคัญ มาลองดูกันว่ามีสิ่งไหนบ้างที่หัวหน้างานที่ดี “ไม่ควรทำ”

ใครที่พึ่งขึ้นตำแหน่งเป็นหัวหน้าใหม่ ๆ อาจจะยังรู้สึกทำตัวไม่ถูก ประหม่า หรือเกิดความตึงเครียดได้ว่าเราจะทำงานหรือบริหารงานออกมาแบบไหนให้ดีที่สุด อย่างไรก็ตามนอกจากเรื่องของการทำงาน คุณภาพของเนื้องาน สิ่งที่ต้องคิดคำนึงถึงอีกอย่างคือพฤติกรรม

 

หัวหน้าเป็นคนหนึ่งที่เปรียบเสมือนบุคคลต้นแบบให้กับคนในทีม และเนื่องจากเราต้องนำทีมและลูกทีม เสียงของเราจึงมีความหมายและ Impact กับคนในทีมอย่างมากมาย เพราะฉะนั้นบอกเลยว่าไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม คนก็มักจะมองเห็นเราเป็นคนแรก ๆ เสมอ

 

วันนี้ลองมาดูกันดีกว่าว่า หัวหน้าที่ดีมีอะไรบ้างที่ควรจะเลี่ยงหรือพฤติกรรมใดบ้างที่ไม่ควรทำ

 

10 พฤติกรรมที่หัวหน้าที่ดีไม่ควรทำ

  1. อย่ามีนโยบายหรือกฎตายตัวมากจนเกินไป : ยิ่งมีกฎมาก ความตึงเครียดก็ยิ่งสูง อีกทั้งยังทำให้คนในทีมรู้สึกไม่ยืดหยุ่นอีกต่างหาก เปลี่ยนจากการใช้กฎเกณฑ์มาแก้ไขเป็นปัญหา เป็นการพิจารณาด้วยเหตุผลและอารมณ์บ้างก็ได้ เนื่องจากลูกทีมแต่ละคนก็มีปัญหาที่ต่างกัน หลายครั้งที่การตั้งกฎตายตัว มักจะไม่ได้ผลเสมอไป
  1. อย่าโกรธง่ายจนเกินไป : ความสุขุม มีเหตุผล และใจเย็น คือสิ่งที่หัวหน้าพึงมี เพราะฉะนั้นหากใครที่เป็นคนเจ้าอารมณ์ อย่าลืมสังเกตอารมณ์ของตัวเองให้ดี และอย่าใจร้อนหรืออารมณ์เสียบ่อยจนเกินไป
  1. อย่ารบกวนเวลาส่วนตัวของลูกทีม : ทุกคนล้วนมีเวลาส่วนตัวกันทั้งสิ้น หากเราเป็นหัวหน้าที่ไม่ได้สนใจว่าลูกทีมต้องมีเวลาพักบ้าง และเอาแต่สั่งงานในวันหยุด คงไม่มีลูกน้องคนไหนอยากทำงานด้วยอย่างแน่นอน
  1. อย่าโกหกหรือบิดเบือนความจริง : ถ้าหากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น หรือความจริงเกี่ยวกับการทำงานที่ลูกทีมจำเป็นที่จะต้องรู้ อย่าบิดเบือนความจริง หรือหาข้อแก้ตัว เพียงแต่เราต้องอธิบายความจริงให้เป็น พร้อมกับวางแผนแก้ไขสถานการณ์ให้ได้อย่างมีเหตุผล
  1. อย่าวิจารณ์ลูกทีมในที่สาธารณะหรือลำเอียงเป็นการส่วนตัว : หัวหน้าที่ดีควรมีความเท่าเทียม และให้ความสำคัญกับลูกทีมอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ควรลำเอียงชอบคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ หรือต่อว่าใครในที่สาธารณะจนทำให้ถูกมองไม่ดีเป็นวงกว้าง
  1. เสียสละให้ผู้อื่นก่อน อย่ายึดตัวเองเป็นอันดับแรก : หัวหน้าควรนึกถึงคนอื่น หรือลูกทีมอยู่เสมอ อย่าคิดว่าตัวเองเป็นหัวหน้าแล้วต้องได้อภิสิทธิ์ก่อนคนอื่น แต่ต้องมีน้ำใจและคำนึงถึงจิตใจคนอื่นด้วยเช่นกัน
  1. อย่าเป็นคนที่คาดเดายากหรือไม่แน่ไม่นอน : หัวหน้าที่ดีควรเป็นคนที่มั่นคง ไม่ว่าจะเป็นทั้งการกระทำหรือจิตใจ อย่าคาดเดายากจนเกินไป จนทำให้ลูกทีมรู้สึกไม่มั่นใจในตัวของหัวหน้า
  1. อย่าพยายามสอดรู้สอดเห็นเรื่องลูกน้อง : การที่เราพยายามรู้เรื่องส่วนตัวของลูกน้องมากจนเกินไป ไม่ใช่เรื่องที่ดี เพียงแต่จะสร้างความไม่สบายใจซึ่งกันและกัน และทำให้การทำงานนั้นมีสภาพแวดล้อมที่อึดอัดมากขึ้นอีกด้วย
  1. อย่าให้คนอื่นทำงานเพื่อที่ตัวเองจะได้ดี : อย่าใช้ลูกน้องทำงานเพื่อผลงานของตัวเอง เพียงแต่เราต้องมองว่าสิ่งที่ลูกน้องทำมาคือผลงานของเขา และมองเห็นความตั้งใจของลูกน้องพร้อมกับให้คำชมเชย ไม่นำผลงานนั้นมาเข้าทางตัวเองเสมอไป
  1. อย่าเข้าไปมีส่วนร่วมในปัญหาจุกจิกหรือความเห็นต่าง : หัวหน้าควรจะต้องเป็นกลาง ไม่เบนไปทางความเห็นต่างความเห็นใดความเห็นหนึ่ง แต่เราควรจะต้องเปิดใจรับฟังทุกความเห็น และสามารถให้คำแนะนำกับทุกคนได้พร้อมกับการลอยตัวเหนือปัญหา ไม่นำตัวเองเข้าไปยุ่งในปัญหาส่วนตัวของใคร

 

การเป็นหัวหน้าไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ได้ง่ายขนาดที่ว่าเราจะทำอะไรก็ได้ เพียงแต่เราต้องคิดให้มากขึ้น วางตัวให้ดีขึ้นและเป็นที่น่าไว้วางใจได้ในสายตาของลูกน้อง อย่าลืมศึกษาวิธีการเป็นหัวหน้าที่ดี และลองทำตามกันนะ

 

อ้างอิง : https://emaxklein.medium.com/10-things-a-boss-should-never-do-7415a224a2ea

Author

  • รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

AI is Making You Dumber
ใช้ AI ยังไง ไม่ให้โง่ลงกว่าเดิม ถามตัวเองว่าคุณกำลังให้ AI ‘ช่วยคิด’ หรือให้ AI ‘คิดแทน’ อยู่กันแน่
แอดมินได้มีโอกาสดูคลิปของช่อง Cold Fusion ที่พูดถึงเรื่องเทคโนโลยีไว้อย่างน่าสนใจ ในชื่อ ‘AI is Making You Dumber. Here’s Why’ คลิปนี้พูดถึงเทรนด์เกี่ยวกับการใช้...
5 คอร์สเรียนฝึกความคิด
5 คอร์สเรียนฝึกความคิด วิเคราะห์จากมหาวิทยาลัยและบริษัทระดับโลกเรียนจบพร้อมรับใบเซอร์
แนะนำคอร์สระดับเริ่มต้นสำหรับการพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ ให้มี Critical Thinking 1. Introduction to Logic and Critical Thinking – มหาวิทยาลัย...
Burnout and stress
ทำความรู้จักกับสภาวะหมดไฟ (Burnout) และสภาวะเครียด (Stress) ต่างกันอย่างไร รับมือได้อย่างไรบ้าง
ปกติแล้วสภาวะหมดไฟ หรือ burnout จะเกิดจากการที่เราเครียดมาก เครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว ซึ่งจะต่างจากความเครียด (Stress) ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ชั่วครั้งคราวตามสถานการณ์ที่พบเจอ...