แอดมินได้มีโอกาสดูคลิปของช่อง Cold Fusion ที่พูดถึงเรื่องเทคโนโลยีไว้อย่างน่าสนใจ ในชื่อ ‘AI is Making You Dumber. Here’s Why’ คลิปนี้พูดถึงเทรนด์เกี่ยวกับการใช้ AI ว่าการใช้ AI ส่งผลให้เราโง่ลงจริงหรือไม่?
คิดว่ามีหลายประเด็นที่อยากมาแชร์ และน่าจะเป็นประโยชน์กับยุคที่ใครก็คุยกับ AI เป็นปกติ
[1] สมองคนเราชอบเรื่องง่ายและมีแนวโน้มจะชอบใช้งานเครื่องมือจนติดเป็นนิสัย ยกตัวอย่าง Google Maps ที่ทุกคนใช้งานจนกลายเป็นเรื่องปกติ แต่รู้หรือไม่ว่ามีงานวิจัยพบว่า Google Maps ทำให้ความสามารถในการจำเส้นทางของผู้คนแย่ลง
[2] ความน่ากลัวคือยิ่งเรามีเครื่องอำนวยความสะดวกสบายเท่าไหร่เรายิ่งห้ามใจที่จะไม่ใช้งานมันยากขึ้นเท่านั้น ลองนึกถึงการออกกำลังกายดู ยิ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายมากเท่าไหร่ การออกกำลังกาย จะกลายเป็นเรื่องยากมากขึ้น ทั้งที่รู้ว่าเป็นสิ่งที่ดี
[3] ในอนาคตถ้า AI มาทำหน้าที่ ‘คิด’ แทนเราแทบทั้งหมด จนเราอาจต้องฝืนไม่ใช้ AI เพื่อฝึกที่จะใช้สมองเพื่อพัฒนาความคิดของตัวเองด้วยเช่นกัน
[4] AI ต่างจากเครื่องมืออื่นๆ ที่เคยใช้มาในอดีตเพราะมันตัด ‘การตัดสินใจ’ ออกไปจากเรา หากเทียบกับการ Search บน Search Engine ในอดีตเรามักจะมีคำถามก่อนเริ่มต้น เช่น เราอยากรู้เรื่องใดเรื่องหนึ่ง จึงค่อยไปค้นหาใน Google ด้วยคำถามนั้น แต่ AI จะแนะนำคอนเทนต์ให้เราดูเลย (และมีงานวิจัยพบว่าคนกว่า 37% ก็พอใจเสียด้วยที่ AI แนะนำคอนเทนต์ให้โดยไม่ต้องคิดอะไร)
[5] นักศึกษาและคนทำงานโดยเฉพาะ GenZ กว่า 88% ใช้ AI ในการช่วยทำงาน อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแย่ แต่สิ่งที่ควรระวังคือการ Overused หรือใช้ AI มากเกินไปจนไม่ได้ใช้สมองคิดเลย
[6] AI เป็นสิ่งประดิษฐ์แรกที่ลงลึกถึง ‘จิตใจ’ และช่วยตัดสินใจแทนคุณได้ ลองดูเทรนด์การใช้ AI ในปี 2025 ดูก็ได้ การใช้งานที่มากที่สุดที่เติบโตมาแซงการทำงาน คือใช้ AI เป็นเพื่อนช่วยฮีลใจ ปรึกษาปัญหาคลายทุกข์ต่างๆ ในชีวิต หรือบางคนให้ตัดสินใจแทนตัวเองเลยด้วยซ้ำ
[7] แนวทางใช้ AI ไม่ให้โง่ลง
- Key 1 สำคัญคือใช้ AI เป็นเพื่อน ‘คู่คิด’ ไม่ใช่เป็นคน ‘คิดแทน’
- Key 2 ฝึก Critical Thinking และเชื่อความคิดของตัวเอง กล้าตัดสินใจด้วยตัวเอง
- Key 3 ถ้าคุณเริ่มไม่กล้าเขียนไอเดีย ไม่กล้าคิด ต้องถาม AI ก่อนทุกครั้ง นี่อาจเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเท่าไหร่แล้วล่ะ
[สรุป]
การใช้ AI ไม่ใช่เรื่องผิด แต่สิ่งสำคัญต้องรู้ว่ากำลังใช้มันในฐานะอะไรและฝึกความคิดของตัวเองด้วยสมองของตัวเองโดยเฉพาะการคิดที่เป็น Critical Thinking อยู่เสมอ
อ้างอิง