เปลี่ยนชีวิต Workaholic ให้สมดุลกับคู่มือ Work Well ปี 2025

Workaholic

ติดงานหนักแค่ไหน ก็ต้องมีชีวิตที่สมดุล !

หากคุณเป็นคนที่ทุ่มเทให้กับงานจนลืมใส่ใจตัวเองและคนรอบข้าง นี่คือเวลาที่ต้องหยุดและปรับสมดุลในชีวิตแล้ว! การทำงานหนักเกินไปอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพกาย จิตใจ และความสัมพันธ์ การเปลี่ยนตัวเองจากคนบ้างาน (Workaholic) ให้เป็นคนที่ทำงานได้ดีโดยไม่ลืมดูแลตัวเอง (Work Well) คือกุญแจสู่ความสำเร็จทั้งในชีวิตการงานและชีวิตส่วนตัว

ทำไมการเปลี่ยนจาก Workaholic เป็น Work Well ถึงสำคัญ?

การทุ่มเทให้กับงานเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าทำมากเกินไปโดยไม่ดูแลตัวเอง ผลลัพธ์อาจไม่คุ้มค่ากับที่เสียไป เช่น:

  • ปัญหาสุขภาพ: ทำงานหนักจนพักผ่อนไม่พอ เสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่างๆ
  • ปัญหาสุขภาพจิต: เครียดสะสมจนหมดไฟ (Burnout) หรือซึมเศร้า
  • ปัญหาความสัมพันธ์: ละเลยคนรอบข้างจนเกิดความห่างเหิน

ดังนั้นการดูแลตัวเองควบคู่ไปกับการทำงานจึงเป็นสิ่งสำคัญ


[คู่มือ Work Well สำหรับ Workaholic ปี 2025]

ตระหนักรู้และยอมรับว่าตัวเองเป็นคนบ้างาน

เริ่มต้นด้วยการสำรวจตัวเองว่าคุณติดงานหนักเกินไปหรือไม่ ตัวอย่างเช่น:

  • คุณคิดเรื่องงานตลอดเวลา แม้ในวันหยุด
  • รู้สึกผิดเมื่อไม่ได้ทำงาน
  • ไม่มีเวลาให้คนรอบตัวหรือกิจกรรมอื่นๆ

หากคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้ ต้องยอมรับความจริงและตระหนักถึงผลกระทบที่อาจตามมา เปิดใจและพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงเพื่อชีวิตที่สมดุล

กำหนดขอบเขตและจัดลำดับความสำคัญ

  • ตั้งเวลาในการทำงาน: กำหนดชั่วโมงการทำงานให้ชัดเจน เช่น เลิกงานตรงเวลา หยุดเช็กอีเมลหลังเลิกงาน
  • ลำดับความสำคัญ: โฟกัสเฉพาะงานที่สำคัญที่สุดในแต่ละวัน ลดงานที่ไม่เร่งด่วนหรือไม่จำเป็น
  • เรียนรู้ที่จะปฏิเสธ: อย่ารับงานที่เกินความจำเป็น เพื่อลดความกดดันในตัวเอง

ใส่ใจสุขภาพกายให้มากขึ้น

การดูแลร่างกายคือจุดเริ่มต้นของความสมดุล:

  • พักผ่อนให้เพียงพอ: นอนหลับวันละ 7-9 ชั่วโมง
  • ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ: เน้นอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วน
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: แม้แค่เดิน 15-30 นาทีต่อวันก็ช่วยได้
  • จัดเวลาพักระหว่างวัน: ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย หรือนั่งสมาธิสั้นๆ

ดูแลสุขภาพจิตของตัวเอง

สุขภาพจิตสำคัญพอๆ กับสุขภาพกาย:

  • หากิจกรรมผ่อนคลาย: เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูหนัง หรือทำงานอดิเรก
  • ใช้เวลากับคนสำคัญ: ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน หรือคนรัก การพูดคุยช่วยคลายเครียดได้ดี
  • ขอคำปรึกษา: หากคุณรู้สึกเครียดสะสมหรือหมดไฟ ควรพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต

ให้รางวัลตัวเอง

  • พักผ่อนและทำสิ่งที่ชอบ: เช่น ไปเที่ยว ช็อปปิ้ง หรือทำกิจกรรมที่สร้างความสุข
  • ปล่อยวางความสมบูรณ์แบบ: ไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างให้เพอร์เฟกต์

เคล็ดลับสร้างสมดุลในชีวิต

การปรับสมดุลจาก Workaholic สู่ Work Well ต้องเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ แต่ต่อเนื่อง เช่น กำหนดเวลางานที่ชัดเจน ใส่ใจสุขภาพกายและจิต และให้เวลากับสิ่งที่สำคัญนอกเหนือจากงาน

เมื่อลองปรับตัวให้สมดุล คุณจะพบว่า:

  • การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • สุขภาพกายและใจดีขึ้น
  • ความสัมพันธ์รอบตัวแข็งแรงขึ้น

เริ่มต้นวันนี้ แล้วคุณจะพบกับชีวิตการทำงานที่ “พอดี” และ “มีความสุข” อย่างแท้จริง!
หากชอบบทความนี้ สามารถอ่านบทความที่เกี่ยวข้องนี้ได้เลย ! 6 นิสัยสำคัญที่จะทำให้ปี 2025 เป็นปีที่ดีที่สุดของคุณ โดย Ali Abdal

Author

  • รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

Laura Vanderkam
ไม่มีคำว่า “ไม่มีเวลา” อีกต่อไปถ้าคุณมี Mindset แบบนี้ โดย Laura Vanderkam นักเขียนชื่อดังด้านการจัดการเวลา
สรุปวิธีคิดที่จะทำให้คุณ “มีเวลา” สำหรับสิ่งสำคัญในชีวิต โดยลอรา แวนเดอร์แคม (Laura Vanderkam) นักเขียนชื่อดังด้านการจัดการเวลา ผู้บรรยาย TED Talk ที่มียอดวิวหลายล้าน...
Vacation Blues
10 เคล็ดลับ "Bounce Back" สลัดอาการ "Vacation Blues" ให้หายเป็นปลิดทิ้ง!
อาการ “Vacation Blues” หรือความเศร้าหลังไปเที่ยวหยุดยาว เป็นอาการปกติที่เล่นงานคนทำงานอย่างหนักอึ้ง ซึ่งเกิดขึ้นกับคนทำงานหลายคนโดยเฉพาะช่วงหยุดยาว อย่างไรก็ตามการจมกับความเศร้าหลังเที่ยวไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก...
Harvard Business Review
ผลสำรวจพบเทรนด์ใหม่คนทำงาน เลือกใช้ AI ดูแลจิตใจแซงการทำงาน โดย Harvard Business Review
งานวิจัยจาก Harvard Business Review เพิ่งออกมา มีผลสำรวจพบว่าคนทำงานเปลี่ยนการใช้ AI จากเครื่องมือทำงาน มาเป็น “เพื่อนคู่ใจ” แทน สิ่งที่เปลี่ยนไปในปี...