ในโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้า เศรษฐกิจผันผวน และสังคมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ปี 2025 จะเป็นปีแห่งความท้าทายและโอกาสสำหรับวงการ HR ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพยากรบุคคลคาดการณ์ว่า 6 เทรนด์ HR 2025 สำคัญต่อไปนี้ จะเข้ามาเปลี่ยนโฉมการบริหารทรัพยากรมนุษย์อย่างมีนัยสำคัญ
1. โปร่งใสหรือปิดบัง? เทรนด์องค์กรที่ HR ต้องเลือกในปี 2025
องค์กรในอนาคตจะถูกแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ “องค์กรโปร่งใส” กับ “องค์กรมืด”
- องค์กรโปร่งใส (Transparent Organizations):
องค์กรที่เน้นความเปิดเผยในด้านข้อมูล การตัดสินใจ และการสื่อสาร มีแนวโน้มดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพที่ยึดมั่นในวัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมให้พนักงานทำงานได้เต็มและสบายใจ - องค์กรมืด (Opaque Organizations):
องค์กรที่หลีกเลี่ยงการรายงานข้อมูล และไม่เน้นความชัดเจนในกระบวนการบริหาร อาจลดต้นทุนได้ในระยะสั้น แต่มีความเสี่ยงสูงต่อการสูญเสียพนักงานและชื่อเสียง เช่น กรณีตัวอย่างขององค์กรที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการปกปิดข้อมูลการจ้างงาน
HR ควรเตรียมตัวอย่างไร?
- ส่งเสริมวัฒนธรรมโปร่งใส:
- ใช้ระบบ HRIS (Human Resource Information System) ที่เปิดโอกาสให้พนักงานสามารถตรวจสอบข้อมูลส่วนตัว การประเมินผลงาน หรือข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก
- นำเสนอรายงานประจำปีเกี่ยวกับสุขภาพองค์กร (Organizational Health) ที่ครอบคลุมทั้งด้านการบริหารคนและความรับผิดชอบต่อสังคม
- พัฒนาทักษะการสื่อสารในองค์กร:
- จัดอบรมให้ผู้บริหารและพนักงานมีทักษะการสื่อสารอย่างชัดเจนและสร้างสรรค์ เพื่อเสริมความโปร่งใสในองค์กร
- สร้างตัวชี้วัดด้านความโปร่งใส:
- กำหนด KPI ด้านความโปร่งใส เช่น อัตราความพึงพอใจของพนักงานต่อการสื่อสารในองค์กร หรือจำนวนครั้งที่ข้อมูลสำคัญถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ
2. วิกฤตขาดแคลนแรงงาน: ผลกระทบจากนโยบายคนเข้าเมือง
การจำกัดนโยบายคนเข้าเมืองและการส่งตัวแรงงานกลับประเทศจะทำให้เกิดการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น เทคโนโลยีและการแพทย์ ส่งผลให้ค่าแรงเพิ่มขึ้น ต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น ความหลากหลายในที่ทำงานลดลง และนวัตกรรมหยุดชะงัก ผู้นำควรลงทุนในโครงการพัฒนาทักษะบุคลากรภายในองค์กรและนำ AI เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเพื่อรองรับปัญหานี้
3. ภาคเอกชนผันตัวเป็นที่พึ่งพิง: เติมเต็มบทบาทของรัฐที่ลดลง
การลดบทบาทของหน่วยงานรัฐจะทำให้องค์กรเอกชนต้องเข้ามาดูแลสวัสดิการของพนักงานมากขึ้น องค์กรที่ให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ของพนักงานจะมีความได้เปรียบในการดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถ ผู้นำควรเสริมสร้างกลุ่มสนับสนุนพนักงาน (ERGs) และเพิ่มสวัสดิการที่ครอบคลุม เช่น บริการทางกฎหมายและการดูแลด้านสุขภาพ
4. AI เปลี่ยนบทบาท: จากเครื่องมือสู่คู่หูสำคัญในปี 2025
AI จะเปลี่ยนบทบาทจากที่เคยเป็นเพียง “เครื่องมือ” มาเป็น “คู่หู” ในการทำงานที่ขาดไม่ได้
การทำงานกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อ AI พัฒนาจาก “เครื่องมือ” มาเป็น “เพื่อนร่วมงาน” ที่แท้จริง เกิดเป็นแนวคิด “Agentic Workplace” ซึ่งหมายถึงสภาพแวดล้อมการทำงานที่มนุษย์ทำงานร่วมกับ AI (ระบบดิจิทัลที่สามารถจัดการงานเชิงปัญญา) และระบบอัตโนมัติทางกายภาพ (Robotic Agents) โดยทั้งสองฝ่ายทำงานร่วมกันอย่างสอดประสานและเสริมสร้างศักยภาพซึ่งกันและกัน การเปลี่ยนแปลงนี้ต้องอาศัยการจัดการที่ครอบคลุมทั้งกระบวนการทำงานของมนุษย์ ดิจิทัล และหุ่นยนต์ รวมถึงการออกแบบกรอบการทำงานใหม่สำหรับทีมแบบไฮบริด เนื่องจาก AI เริ่มเข้ามามีบทบาทในการตัดสินใจอย่างอิสระมากขึ้น
องค์กรที่นำ AI มาใช้เป็น “เพื่อนร่วมงาน” จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญกับความท้าทายในด้านจริยธรรมและการบริหารจัดการความเหมาะสมเช่นเดียวกัน
องค์กรที่สามารถผสมผสานความสามารถของ AI เข้ากับทรัพยากรมนุษย์ได้อย่างลงตัว จะเป็นผู้นำในโลกธุรกิจยุคใหม่ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาว
5. ความขัดแย้งในองค์กร: เมื่อความคิดต่างสร้างปัญหาในการทำงาน
จากประเด็นด้านความหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่าง (DEI) รวมไปถึงความแตกแยกทางการเมือง จะสร้างความตึงเครียดในองค์กร ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาในองค์กรและการฟ้องร้องเกิดขึ้น ผู้นำควรพัฒนานโยบายที่ครอบคลุมและยืดหยุ่น พร้อมฝึกอบรมผู้จัดการทีมให้มีทักษะการจัดการความขัดแย้งเพื่อสร้างความร่วมมือในทีม
6. ฟรีแลนซ์กลับสู่งานประจำ: โอกาสและความท้าทาย
ความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจอาจผลักดันแรงงานฟรีแลนซ์ให้กลับเข้าสู่องค์กรแบบดั้งเดิม องค์กรต้องปรับตัวเพื่อรองรับความคาดหวังด้านความยืดหยุ่นและอิสระของแรงงานกลุ่มนี้ ผู้นำควรปรับปรุงแพ็คเกจสวัสดิการให้ยืดหยุ่นมากขึ้น และสร้างตลาดแรงงานภายในองค์กรเพื่อดึงดูดและรักษาแรงงานที่มีคุณภาพ
ด้วย “เทรนด์ HR” ในปี 2025 นี้ บทบาทของ HR จะมีความสำคัญมากขึ้นแถมจะที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ตั้งแต่การผสาน AI สู่การจัดการความแตกแยกในองค์กร การเป็นผู้นำที่ผสมผสานนวัตกรรมกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบ และใช้กลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลควบคู่กับการให้ความสำคัญกับคน จะช่วยให้องค์กรปรับตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืน การมุ่งเน้นสร้างความไว้วางใจ เสริมสร้างการมีส่วนร่วม และสร้างคุณค่าให้กับบุคลากร คือหัวใจสำคัญของความสำเร็จในการกำหนดอนาคตของการทำงาน
.
อ้างอิง https://www.forbes.com/sites/solangecharas/2024/11/24/from-ai-to-workplace-polarization-top-hr-trends-predicted-for-2025/