Diversity & Inclusion หัวใจการสร้างองค์กรแห่งศตวรรษที่ 21

Diversity & Inclusion
เราจะเห็นว่า ทั้ง 2 คำนี้มักถูกใช้ ‘เรียกรวมๆ’ กันอยู่บ่อยๆ ทั้งที่จริงมีความหมายที่ต่างกัน บริษัทหนึ่งอาจมี Diversity แต่ไม่มี Inclusion ก็ได้ 
  • บริษัท A มีความหลากหลายของพนักงานทั้งทางเพศ เชื้อชาติ วัย แบคกราวน์การศึกษา…นี่คือ Diversity
  • บริษัท A เดียวกันก่อตั้งมานาน สมัยก่อนคณะผู้บริหารมีแต่ผู้ชายล้วนและอายุ 50+ ปัจจุบันเพิ่มผู้หญิงรุ่นใหม่อายุ 30 กว่าในสัดส่วน 25%…นี่คือ Inclusion

เราจะเห็นว่า ทั้ง 2 คำนี้มักถูกใช้ ‘เรียกรวมๆ’ กันอยู่บ่อยๆ ทั้งที่จริงมีความหมายที่ต่างกัน บริษัทหนึ่งอาจมี Diversity แต่ไม่มี Inclusion ก็ได้ 

เช่น มีการจ้างงานพนักงานที่นั่งวีลแชร์ในสัดส่วนที่เยอะ (มี Diversity) แต่ออฟฟิศไม่ได้ออกแบบให้มีลิฟต์หรือทางลาด (ไม่มี Inclusion)

แต่สถานการณ์ปัจจุบันเปลี่ยนไปแล้ว Diversity & Inclusion (D&I) สำคัญขึ้นเรื่อยๆ เป็นแพกเกจคู่ที่มาต้องมาพร้อมกัน และเป็นประเด็นที่ HR ต้องรีบทำความเข้าใจ

ทำไม Diversity & Inclusion ถึงสำคัญในยุคนี้?

ไม่ต่างจากระบบนิเวศน์ในธรรมชาติ ยิ่งมีความหลากหลายของสายพันธุ์และสปีชีส์สัตว์ต่างๆ เกิดการปฏิสัมพันธ์ร่วมกันอย่างเปิดกว้าง ระบบนิเวศน์นั้นยิ่งมีความ “สมบูรณ์” …การทำงานในบริษัทก็เช่นกัน

ผลวิจัยจาก McKinsey ที่ทำในบริษัทใหญ่ 1,000 แห่งกว่า 15 ประเทศทั่วโลกพบว่า ยิ่งทีมบริหารมีความหลากหลายและเปิดกว้างทางความคิดมากเท่าไร ผลประกอบการยิ่งมีแนวโน้มดีมากขึ้นเท่านั้น

เราทุกคนล้วนมี “กรอบความคิด” โลกทัศน์เป็นของตัวเอง ซึ่งถูกหล่อหลอมมาจากสังคมรอบตัว การศึกษา ฐานะ เพศสภาพ ฯลฯ ไม่แปลกใจเลยว่า เช่น ทำไมคนที่จบนอกเหมือนกับเราถึงมัก ‘คุยกันรู้เรื่อง’ 

เพียงแต่โลกธุรกิจยุคใหม่เปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป ของใหม่มาให้เรียนรู้ตลอด ปัญหาใหม่มีมาให้แก้ไม่ขาดสาย ความคิดที่ถูกจำกัดในกรอบใดกรอบหนึ่งจึงไม่เวิร์คอีกต่อไป

จึงต้องอาศัยความคิดเห็นอันหลากหลายที่มาจากผู้คนหลากหลายแตกต่างกัน จะว่าไปก็เหมือนอาหาร…ยิ่งเรามีวัตถุดิบเยอะและหลากหลายมากเท่าไร ยิ่งนำมาผสมออกแบบสร้างสรรค์เมนูอาหารได้มากเท่านั้น

Diversity & Inclusion

ผลสำรวจจาก London Annual Business Survey ยังพบว่า ทีมผู้บริหารที่มีหลากหลายทางวัฒนธรรมมาจากหลายเชื้อชาติ มีอัตราการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ มากกว่า เพราะ “ตกผลึก” จากมุมมองที่รอบด้าน

ประเด็นนี้ยังสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคสมัยใหม่ 

อย่างที่ทราบกันดีว่า ผู้บริโภคยุคใหม่มีความ “ลึกซึ้ง” ในการซื้อสินค้ามากขึ้น ไม่ได้ซื้อแค่ตัวสินค้าเฉยๆ อีกต่อไป แต่ซื้อเพราะอุดมการณ์ ความมุ่งมั่นของบริษัทในการทำดี ไม่ว่าจะแพกเกจจิ้งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การให้ค่าแรงที่เป็นธรรม…รวมถึง Diversity & Inclusion ของตัวองค์กรเอง

นอกจากนี้ เป้าหมายในฝันที่ทุกบริษัทมีเหมือนกันคือ เป็นที่หมายปองของคนเก่งอยากมาทำงานด้วย และ Diversity & Inclusion เป็นปัจจัยหลักของแคนดิเดตโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ Gen Z ผลสำรวจจาก Glassdoor เผยว่า ผู้หางานกว่า 67% มองว่าสภาพแวดล้อมการทำงานที่หลากหลายและเข้าถึงได้ (Diverse & Inclusive Environment) เป็นปัจจัยสำคัญในการพิจารณาเลือกบริษัท

องค์กรที่ขึ้นชื่อ Diversity & Inclusion

เห็นภาพลักษณ์สนุกสนานแบบนี้ แต่หลายคนอาจไม่ทราบว่า PepsiCo เป็นบริษัทที่ซีเรียสเรื่อง Diversity & Inclusion ซึ่งมีประวัติโดดเด่นเรื่องนี้มาช้านาน

  • ปี 1962 แต่งตั้ง Harvey C. Russell ขึ้นเป็น Vice President ของบริษัท ถือเป็นคนดำคนแรกที่ขึ้นตำแหน่งบริหารระดับสูงของบริษัทข้ามชาติอเมริกัน
  • ตั้งแต่ปี 1982 มีนโยบายส่งเสริม Supplier รายย่อยในแต่ละประเทศ
  • มีโครงการสนับสนุนทหารผ่านศึกมากมาย เช่น จ้างงาน / ขบวนพาเหรดสรรเสริญ
  • สนับสนุน LGBT+ ในรูปแบบต่างๆ เช่น ออก Doritos ดีไซน์ ‘เรนโบว์’
  • พยายามบรรลุให้ผู้บริหารชายหญิงได้รับค่าแรงเท่าเทียมกัน (Gender Pay Equity) ภายในปี 2025

Alibaba อาณาจักร e-Commerce ยักษ์ใหญ่ของโลกก็ขึ้นชื่อเรื่องนี้ Jack Ma ถึงกับออกปากพูดด้วยตัวเองว่า เบื้องหลังความสำเร็จของ Alibaba คือคุณผู้หญิง เนื่องมาจากความอดทนและการใส่ใจรายละเอียดอันอ่อนช้อยในแบบที่ผู้ชายมักมองข้าม โดยทีมผู้บริหารถึง 1/3 ของ Alibaba เป็นผู้หญิง

วงการความงามอย่าง L’Oréal มีสัดส่วนพนักงานหญิงกว่า 69% และมีโครงการริเริ่มช่วยเหลือกลุ่มคนต่างๆ ในหลายประเทศ เช่น เปิดการทำเวิร์คช็อปสร้างการรับรู้เรื่องผู้พิการที่อินเดีย หรือ ทำเวิร์คช็อปกับนักเรียนที่มาจากหลายเชื้อชาติที่เนเธอร์แลนด์

ThisAbleMe สื่อที่เปิดพื้นที่เชื่อมคนพิการกับโลกภายนอก มีการจ้างงานผู้พิการในสัดส่วนที่สูง ออฟฟิศของที่นี่ยังออกแบบเชิงกายภาพเพื่อรองรับทุกคนตามหลัก Universal Design เช่น มีทางลาดสำหรับผู้ใช้วีลแชร์อยู่ทุกจุด

Diversity & Inclusion

Café Amazon for Chance ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อยื่นมือช่วยเหลือผู้ขาดโอกาสในสังคม โดยพนักงานเกือบทั้งหมดจะเป็นผู้พิการด้านใดด้านหนึ่ง ลูกค้าอาจต้องสั่งเครื่องดื่มด้วยภาษามือ เป็นการเรียนรู้สัมผัสความแตกต่างสภาพร่างกายของคนในสังคมไปในตัว

.

.

อยากทำงานในบริษัทที่เด่นเรื่อง Diversity & Inclusion แนวไหน? ลองไปทำ “แบบประเมินอาชีพ” จาก CareerVisa เพื่อค้นหาคำตอบ และค้นพบอาชีพที่ใช่ไปในตัวได้ที่นี่ >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/


อ้างอิง

Author

  • รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

Disney
Disney ปั้นองค์กรอย่างไร? สู่โลกจินตนาการที่มีอยู่จริง
Walt Disney มีมูลค่าบริษัทสูงถึง 9.6 ล้านล้านบาทปี 2019 เคาะรายได้รวม 2.1 ล้านล้านบาทมอบความบันเทิงและโลกจินตนาการแก่ผู้คนทั่วโลกทุกวันนี้เวลาเรานึกถึงดิสนีย์เรามักนึกถึง...
การตั้งชื่อ
Assigning Name : คำใหม่ กรอบใหม่ ชีวิตใหม่
Economy , Business Class , First Class ///4P: Product – Price – Place – Promotion ///London bus VS. The Routemaster ///new Coke VS. Coca-Cola classic นี่คือตัวอย่างของพลังการ...
Burnout
สัญญาณ Burnout : ทำไมการ ‘พร้อมเพื่อทุกคน’ อาจทำร้ายคุณ?
ในยุคที่ทุกอย่างเป็น “Always on” หรือพร้อมทำงานตลอดเวลา อาการ Burnout กลายเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในกลุ่มคนทำงานโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะสำหรับคนที่มักจะ...