ยังไม่มีเป้าหมายของตัวเองชัดเจน มาลองดูตัวอย่างของเป้าหมายง่าย ๆ ที่ทำตามกันได้ในปี 2023 นี้กัน

เริ่มต้นปีใหม่นี้ คุณมีเป้าหมายที่อยากทำให้สำเร็จกันบ้างหรือยัง? บางคนอาจจะได้เริ่มต้นกับงานที่ใหม่ สังคมใหม่ ๆ ส่วนบางคนก็อาจจะได้ขึ้นตำแหน่ง เลื่อนขั้น ได้รับหน้าที่การงานแบบใหม่ที่ยังไม่เคยได้ทำมาก่อน ยิ่งปีใหม่ มีอะไรใหม่ ๆ เข้ามา บอกเลยว่าการตั้งเป้าหมายเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการทำงานและการพัฒนาตัวเอง ย่อมเป็นเรื่องสำคัญที่ควรจะมี

ต้องบอกก่อนว่าไม่ว่าเราจะทำอะไรก็ตาม เราควรมีเป้าหมายว่าทำสิ่งนั้นไปเพื่ออะไร การทำงานก็เช่นกัน หากเราไม่ตั้งเป้าหมายของการทำงานไว้ว่า เราอยากได้อะไรจากงานนี้ อยากเติบโตไปในเส้นทางแบบไหน อยากทำอะไรให้สำเร็จ เราก็คงไม่รู้แน่ ๆ ว่าควรจะวางแผน และเรียนรู้พัฒนาตัวเองไปได้อย่างไร

 

แต่การตั้งเป้าหมายสำหรับบางคน ก็อาจจะเป็นเรื่องยาก เพราะถ้าให้คิดอย่างตั้งใจ เราก็อาจจะยังมองไม่ออกว่าจริง ๆ แล้ว เราชอบอะไร หรืออยากเก่งในด้านไหนกันแน่ เพราะฉะนั้นจึงเชื่อว่าคงมีคนหลายคน ที่กำลังสับสนกับการวางเป้าหมายทั้งในระยะสั้นและยาวของตัวเองเป็นอย่างแน่นอน

 

วันนี้ CareerVisa จึงอยากจะมาเสนอเป้าหมายง่าย ๆ ที่ทุกคนอาจจะลองเอาไปทำตามกัน เพื่อพัฒนาตัวเองและหาแรงบันดาลใจในการตั้งเป้าหมายสูงสุดในการทำงานต่อไป 

เชื่อว่าหากทำตามวิธีเหล่านี้ เราอาจจะเห็นตัวเองมากขึ้นว่าถนัดอะไร และมั่นใจว่าทุกคนจะได้พัฒนาตัวเองไปอีกระดับอย่างแน่นอน

 

เป้าหมายที่ 1 : ฉันจะต้องสื่อสารได้เก่งขึ้น 

เป็นเรื่องท้าทายที่จะลองตั้งเป้าหมายว่าเราจะเป็นคนที่สื่อสารเก่งขึ้น สื่อสารออกมาได้อย่างทรงพลังและน่าเชื่อถือมากขึ้น เพราะฉะนั้นลองพัฒนาตัวเองด้านนี้ดู อาจจะมองเห็นได้ง่ายขึ้นว่าเราอยากทำอะไรกันแน่

เป้าหมายที่ 2 : ฉันจะต้องลงคอร์สเรียนเพิ่มขึ้น

มีอีกหลายอย่างที่เราอยากเรียนรู้ แต่รู้สึกว่าปีก่อนยังไม่มีเวลาให้ได้เรียนรู้อะไรเลยเพราะเอาแต่ทำงาน ลองตั้งเป้าให้ตัวเองได้เรียนอะไรสักอย่างให้จบคอร์สดู เพื่อเป็นการพัฒนาสกิลที่ขาดไปของเราเอง

เป้าหมายที่ 3 : ฉันจะต้องคุยกับคนอื่นเก่งขึ้น

นอกจากจะสื่อสารออกไปได้แล้ว เรายังต้องมีสกิลการพูดคุยโน้มน้าวใจให้ทุกคนเชื่อถือเรามากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสกิลการเล่าเรื่อง การใช้คำศัพท์ การพูดจา หรือบุคลิกระหว่างการสื่อสาร บอกเลยว่าพัฒนาสิ่งเหล่านี้ได้ในปีนี้ จะเก่งไปอีกขั้นแน่นอน

เป้าหมายที่ 4 : ฉันจะต้องทำงานเป็นทีมได้ดีขึ้น

จากที่ปีก่อนอาจจะทำงานอยู่กับตัวเองเยอะ ปีนี้ลองหางานที่ได้ทำร่วมกับคนอื่น พัฒนาสกิลการทำงานเป็นทีม ไม่ว่าจะเป็นผู้นำหรือผู้ตาม ให้ได้ดีขึ้น

เป้าหมายที่ 5 : ฉันจะต้องมีคนรู้จัก มีคอนเนคชั่นมากขึ้น

จากแต่เดิมที่เราอาจจะรู้จักกลุ่มคนในวงแคบ ปีนี้เราจะลองไปหางานสัมมนา หรือว่าไปหากิจกรรมใหม่ ๆ ทำ เพื่อให้ได้รู้จักกับคนมากขึ้น รู้จักกับคนที่หลากหลายขึ้น เพื่อที่เราจะได้พัฒนาตัวเองต่อไปในหน้าที่การงาน และขยับขยายตัวเองได้เร็วขึ้น

เป้าหมายที่ 6 : ฉันจะต้องรู้จักจุดแข็งและจุดอ่อนตัวเองมากขึ้น

ปีนี้เราจะต้องรู้จักตัวเองมากขึ้น เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าอะไรที่เราสามารถสู้คนอื่นได้ หรืออะไรที่เราจะต้องหาข้อมูลและพัฒนาตนเองมากขึ้น

เป้าหมายที่ 7 : ฉันจะต้องจัดการเวลาได้ดีขึ้น

เปลี่ยนนิสัยทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เป็นทำงานอ่ย่างพอดี และมีเวลาพัฒนาตัวเองหรือเวลาพักกับคนที่เรารักมากขึ้น ปีนี้หากเราจัดการเวลาเก่งขึ้น เราคงได้ทำอะไรที่หลากหลายมากขึ้นกว่าแต่เดิมแน่นอน

เป้าหมายที่ 8 : ฉันจะต้องพัฒนาสกิลการเป็นผู้นำของตัวเอง

นอกจากสกิลทั่วไปแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่ปีนี้ควรทำให้สำเร็จคือการพัฒนาสกิลการเป็นผู้นำของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการลองทำงานกลุ่มแบบที่เราเป็นหัวหน้า หรือการลงคอร์สเรียนเพื่อการเป็นผู้นำต่าง ๆ 

เป้าหมายที่ 9 : ฉันจะต้องฝึกฝนความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองให้ดีขึ้น

ปีนี้จะไม่ทำตามกรอบแล้ว แต่เราจะหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น เป็นคนที่สามารถคิดแง่บวกได้ดีขึ้น ไม่คิดลบกับตัวเองและมีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้น

เป้าหมายที่ 10 : ฉันจะต้องจัดการปัญหารอบตัวได้ดีขึ้น

ไม่ว่าปัญหาอะไรที่เข้ามา ฉันจะต้องผ่านมันไปให้ได้ เพราะถ้าหากเราสามารถแก้ไขปัญหารอบตัว หรือปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี ก็จะลดความปวดหัวในการใช้ชีวิตไปได้เยอะเลย

 

อ้างอิง

https://www.betterup.com/blog/work-goal-examples 

Author

  • รวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อการพัฒนานอกกรอบของคนทำงาน

Related   Articles

openai
ข่าวดี! OpenAI Academy เปิดให้เรียนรู้ AI ฟรีแล้ววันนี้!
CareerVisa ขอแนะนำแพลตฟอร์มใหม่จาก OpenAI ที่เปิดโอกาสให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน ครู ผู้ประกอบการ หรือผู้ที่สนใจทั่วไปก็สามารถเรียนรู้และใช้งาน AI ได้อย่างมั่นใจ...
discipline
ฝึกตัวเองให้มีวินัยขั้นสุดยอด อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ได้ด้วยสิ่งนี้ โดย Andrew Huberman
สำหรับใครที่รู้สึกว่าควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ ไม่มีวินัยเอาซะเลย วันนี้ CareerVisa จะมาเล่าให้ฟังแบบบ้านๆ เรื่องอยากมีวินัย (discipline) ให้ฟังว่าทำยังไงถึงจะฝึกวินัยได้แบบเป็นวิทยาศาสตร์...
Kelly McGonigal
"เครียดยังไงให้กลายเป็นพลังบวก" สรุปแนวคิดจาก Kelly McGonigal นักจิตวิทยาด้านสุขภาพและผู้เขียนหนังสือ "The Upside of Stress"
วิธีคิดเกี่ยวกับการเปลี่ยนมุมมองต่อความเครียดเพื่อใช้มันเป็นเครื่องมือในการพัฒนาตัวเอง 1. มองความเครียดเป็นพลัง ความเครียดไม่ใช่สิ่งที่ต้องกลัว การเชื่อว่าความเครียดช่วยเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อมรับมือความท้าทาย...