หนึ่งในกรณีศึกษาชั้นนำของเมืองไทย คือ “LINE MAN Wongnai” ที่มอบสวัสดิการพนักงานมาให้แบบจุกๆ แถมมีอิสระเลือกเองได้ตามที่ชอบ จนหลายคนแค่ได้ยิน “สวัสดิการเจ๋งๆ” ของที่นี่ก็อยากยื่นใบสมัครงานแล้ว!
วงเงิน 30,000 บาทต่อปี
LINE MAN Wongnai มอบวงเงินมากถึง 30,000 บาทต่อปี หรือตกเฉลี่ยเดือนละ 2,500 บาท เพื่อให้พนักงานเอาไปเบิกใช้ทำกิจกรรมตาม lifestyle ได้
โดยนิยามเงื่อนไขในการนำไปใช้ค่อนข้างครอบคลุมมากๆ เรียกว่าเป็นอะไรก็ตามที่ใช้พัฒนา “คุณภาพชีวิต” ของพนักงานได้ บริษัทก็ยินดีพร้อมจ่ายให้ เช่น
- ซื้อมือถือรุ่นล่าสุด – เอาไว้ใช้ทำงาน ให้ได้งานคุณภาพดี
- สมัครฟิตเนส – เรื่องสุขภาพของพนักงานต้องมาก่อน
- ผ่อนบ้าน – เพราะเป็นปัจจัย 4 ในการดำรงชีวิตของพนักงาน
- เอาไปเที่ยว – คนทำงานต้องพักผ่อนบ้าง ดูแลสภาพจิตใจ พร้อมกลับมาลุยงานใหม่แบบเต็มที่
เรื่องซัพพอร์ตเงินๆ ทองๆ ยังไม่หมดแค่นี้ เพราะที่นี่สร้างงบขึ้นมาก้อนหนึ่งเรียกว่า Individual Training Budget มากถึง 6,000 บาทต่อคนต่อปี เพื่อให้พนักงานนำไปใช้เลือกใช้ reskill-upskill ได้ตามอัธยาศัยในสิ่งที่ตัวเองขาดไป
โดยองค์กรก็เข้าใจในสไตล์ของพนักงานแต่ละคน โดยจะไม่จำกัดรูปแบบเลย
- บางคนถนัดเรียนคอร์ส Online สะดวก เรียนเมื่อไรที่ไหนก็ได้
- บางคนชอบเข้าคลาสสัมมนาเจอผู้คนสร้างคอนเนคชั่น
- แต่บางคนถนัดเรียนรู้จากหนังสือ ก็ซื้อหนังสือมาอ่านก็ได้
ขอแค่เป็นสิ่งที่ใช้ “พัฒนาศักยภาพ” ตัวเองได้ก็พอ บริษัทพร้อมซัพพอร์ต
MacBook ทุกคน
สวัสดิการแรกที่คนทำงานต้อง WOW ตาลุกวาวคือ บริษัทแจก ”MacBook” ให้พนักงานทุกคนจุกๆ เอาไปใช้คนละเครื่องเลย! ไม่ว่าจะอยู่แผนกไหน ตำแหน่งอะไร บทบาทความรับผิดชอบมากน้อยแค่ไหน ก็รับไปใช้ติดตัวก่อนเลย
เหนื่อยก็แค่พัก
องค์กรได้ออกแบบพื้นที่มุมหนึ่งในออฟฟิศเพื่อทำเป็น ห้องสุขภาพ (Wellness Room) ภายในเป็นโซฟาอย่างดี บ่ายๆ พนักงานสามารถมา “งีบหลับ” ได้ตามอัธยาศัย พนักงานมาใช้บริการเมื่อไรก็ได้ไม่มีจำกัด
LINE MAN Wongnai นำวิทยาศาสตร์ด้านการนอนหลับมาประยุกต์ใช้ ที่ว่ามนุษย์เราจะนอนแบบ Biphasic sleep คือ งีบกลางวัน-นอนกลางคืน การได้งีบหลับสั้นๆ 15 นาทีช่วงบ่าย จะเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและความคิดสร้างสรรค์ได้มโหฬาร
นี่ยังเป็นแนวทางเดียวกับที่บริษัทชั้นนำของโลกทำกัน เช่น Nap pod ของ Google หรือ Nap room ของ Facebook ซึ่งได้บุกเบิกริเริ่มมาเป็นเวลานับทศวรรษแล้ว
สุขภาพใจสำคัญไม่แพ้กัน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า สวัสดิการดีขนาดนี้ คนก็สมัครงานเข้ามากันเยอะ การแข่งขันในองค์กรจึงสูงตาม ทำงานหนัก เหนื่อย เครียด นำมาสู่ปัญหาคลาสสิคของคนทำงานยุคนี้ คือ ปัญหาสุขภาพจิต
LINE MAN Wongnai เข้าใจธรรมชาติเรื่องนี้ดี จึงออกแบบระบบให้คำปรึกษาที่ดูแลโดย “นักจิตวิทยามืออาชีพ” โดยองค์กรซัพพอร์ตค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
ซัพพอร์ตค่าใช้จ่าย
ในช่วงปีโควิด-19 ที่พนักงานแทบทุกคนต้องอยู่บ้านนั่งทำงาน เกิด Pain point อย่างหนึ่งขึ้นมานั่นคือ หลายคนบ่นว่า “ค่าไฟที่บ้านแพงจังเลย” เพราะอยู่บ้านร้อน เลยต้องเปิดแอร์ทำงานแทบตลอดทั้งวันเพื่อให้มีสมาธิทำงานได้ดี ส่งผลให้ค่าไฟเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว
เมื่อองค์กรได้รับรู้ issue นี้ ก็ไม่ปล่อยผ่านยกภาระให้เป็นเรื่องของพนักงานเอง แต่ออกนโยบายช่วยเหลือค่าไฟให้พนักงานทุกคนด้วย โดยโชว์หลักฐานและมาเบิกค่าไฟได้มากระดับหนึ่งเลย
นอกจากนี้ “อาหารเเช้า & กลางวันฟรี” เพื่อลดค่าใช้จ่ายพนักงานได้กลายเป็นสวัสดิการพื้นฐานของ LINE MAN Wongnai ไปแล้ว และมีแต่จะดันเพดานขึ้นไปอีกในเรื่องความหลากหลายของเมนู รสชาติ หรือโภชนาการ
ใส่ใจการใช้ชีวิตในออฟฟิศ
องค์กรใช้การทำงานแบบ Flexible time ไม่มีเวลาเข้าออกงาน โดยองค์กรเชื่อมั่นว่าพนักงานมีความรับผิดชอบในตัวอยู่แล้ว ได้รับโจทย์งานไป ที่เหลือไปบริหารเวลาจัดการต่อเองได้ เป็นระบบ Trust system รูปแบบหนึ่ง ที่ฟังตอนแรกอาจดูน่ากังวลแต่กลับให้ผลลัพธ์ออกมาดีมาก เพราะนี่คือองค์กรยุคใหม่ที่เน้น Result-based ยึดผลลัพธ์ปลายทางเป็นหลัก ส่วนต้นทาง-ระหว่างทาง จะไม่ไป micro-manage คนทำงานเลย
องค์กรยังนำจิตวิทยาเรื่อง “สี” ที่มีผลต่อความคิดและพฤติกรรมมนุษย์ มาใช้ในการตกแต่งออฟฟิศให้มีลวดลายสีสัน แตกต่างจากออฟฟิศทั่วไปที่มักมีแค่สีขาว-ดำ-เทา ออฟฟิศที่นี่ ใครเดินมาแล้ว มองเผินๆ ช่วยให้พนักงานรู้สึกผ่อนคลาย แต่แฝงไปด้วยเบื้องหลังที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานด้วย เช่น
- สีส้ม – กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิดอะไรใหม่ๆ
- สีเหลือง – ให้ความรู้สึกร่าเริง สนุกสนาน
- สีแดง – ให้ความรู้สึกท้าทาย ตื่นเต้น พร้อมพุ่งชน
- สีฟ้า – ให้ความรู้สึกสุขุม นุ่มนวล ผ่อนคลาย
สวัสดิการ LGBTQ+
LINE MAN Wongnai ต้องการเป็นองค์กรที่โปรโมท “ความเท่าเทียมทางเพศ” จึงได้เพิ่มการซัพพอร์ตสำหรับพนักงานกลุ่มนี้เพิ่มเติม
- เงินซัพพอร์ต 20,000 สำหรับการแต่งงานเพศเดียวกัน
- สิทธิ์วันลา 30 วัน สำหรับผ่าตัดแปลงเพศ
- สิทธิ์วันลา 10 วัน เมื่อรับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยง
ที่น่าสนใจคือ องค์กรได้นิยามตำแหน่งใหญ่ด้าน HR ให้มีชื่อว่า Head of People ไม่ได้มองคนเป็นทรัพยากรแรงงานแบบดั้งเดิม แต่สื่อถึงการดูแลพนักงานทุกคนเสมือนเป็นผู้คนประชาชนที่ต้องเทคแคร์อย่างดีเยี่ยม
เห็นสวัสดิการเจ๋งๆ ชวน WOW แบบนี้แล้ว ก็ไม่แปลกใจเลยที่ LINE MAN Wongnai จะมีผู้สมัครงานเข้ามามากถึง 30,000 กว่าคนต่อปีเลยทีเดียว!
อ้างอิง